เมนู

กล่าวติเตียนพระพุทธเจ้า รูปหนึ่งกล่าวติเตียนพระธรรม รูปหนึ่งกล่าว
ติเตียนพระสงฆ์
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อสงฆ์จำนงพึงลงอุกเขปนียกรรม ฐานไม่
สละทิฏฐิอันเป็นบาป แก่ภิกษุ 3 รูปนี้แล.
ข้อที่สงฆ์จำนง 6 หมวด
ในอุกเขปนียกรรม ฐานไม่สละทิฏฐิอันเป็นบาป จบ

วัตร 18 ข้อ


[309] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุถกสงฆ์ลงอุกเขปนียกรรม ฐาน
ไม่สละทิฏฐิอันเป็นบาปแล้ว ต้องประพฤติโดยชอบ
วิธีประพฤติชอบในอุกเขปนียกรรม ฐานไม่สละทิฏฐิอันเป็นบาป
นั้น ดังต่อไปนี้ :-
1. ไม่พึงให้อุปสมบท
2. ไม่พึงให้นิสัย
3. ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก
4. ไม่พึงรับสมมติเป็นผู้สั่งสอนภิกษุณี
5. แม้ได้รับสมมติแล้ว ก็ไม่พึงสั่งสอนภิกษุณี
6. สงฆ์ลงอุกเขปนียกรรม ฐานไม่สละทิฏฐิอันเป็นบาปเพราะ
อาบัติใด ให้พึงต้องอาบัตินั้น
7. ไม่พึงต้องอาบัติอื่นอันเช่นกัน

8. ไม่พึงต้องอาบัติอันเลวทรามกว่านั้น
9. ไม่พึงติกรรม
10. ไม่พึงติภิกษุทั้งหลายผู้ทำกรรม
11. ไม่พึงห้ามอุโบสถแก่ปกตัตตะภิกษุ
12. ไม่พึงห้ามปวารณาแก่ปกตัตตะภิกษุ
13. ไม่พึงทำการไต่สวน
14. ไม่พึงเริ่มอนุวาทาธิกรณ์
15. ไม่พึงยังภิกษุอื่นให้ทำโอกาส
16. ไม่พึงโจทภิกษุอื่น
17. ไม่พึงให้ภิกษุอื่นให้การ
18. ไม่พึงช่วยภิกษุกับภิกษุให้สู้อธิกรณ์กัน .
วัตร 18 ข้อ
ในอุกเขปนียกรรม ฐานไม่สละทิฏฐิอันเป็นบาป จบ

สงฆ์ลงโทษและระงับกรรม


[310] ครั้งนั้น สงฆ์ได้ลงอุกเขปนียกรรม ฐานไม่สละทิฏฐิอัน
เป็นบาปแก่พระอริฏฐะผู้เกิดในตระกูลพรานแร้ง คือ ห้ามสมโภคกับสงฆ์
ท่านถูกสงฆ์ลงอุกเขปนียกรรม ฐานไม่สละทิฏฐิอัน เป็นบาป แล้วสึกเสีย